ดูแลคนใกล้ตัวอย่างไร เมื่อรู้ว่าป่วยเป็นมะเร็ง

รู้ก่อนซื้อ ดูแลคนใกล้ตัวอย่างไร เมื่อรู้ว่าป่วยเป็นมะเร็ง
การรู้ตัวว่าป่วยเป็นโรคร้ายแรงอย่างมะเร็งนั้น ไม่เพียงจะสร้างความวิตกกังวล และความเครียดให้กับผู้ป่วยเท่านั้น แต่ยังทำให้คนรอบข้างเกิดความรู้สึกหดหู่ตามไปด้วย

จากข้อมูลเมื่อปี พ.ศ 2564 ที่รายงานโดย กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่าปัจจุบันโรคมะเร็งถือเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทย และมีแนวโน้มอัตราการเกิดโรคสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยพบว่ามีผู้ป่วยโรคมะเร็งรายใหม่ประมาณ 139,206 คนต่อปี และในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิต 84,073 คนต่อปี ซึ่งโรคมะเร็งที่พบมาก 5 อันดับแรกในคนไทย ได้แก่

1) มะเร็งตับและท่อน้ำดี
2) มะเร็งเต้านม
3) มะเร็งปอด
4) มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก
5) มะเร็งปากมดลูก

สำหรับสาเหตุของโรคมะเร็งที่กล่าวมาใน 5 อันดับนั้น กรมควบคุมโรค วินิจฉัยว่าส่วนหนึ่งเกิดจากพฤติกรรมการดำเนินชีวิตที่ทำให้เกิดความเสี่ยงตามมา เช่น การสูบบุหรี่จัด ดื่มแอลกอฮอล์ต่อเนื่องเป็นเวลานาน และการรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนสารก่อมะเร็ง รวมไปถึงการประกอบอาชีพ หรืออยู่ในสภาพสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการเกิดมะเร็ง

โดยส่วนใหญ่แล้ว การเกิดมะเร็งนั้นมักมีอาการผิดปกติแบบเรื้อรังเกิดขึ้นกับร่างกาย อาทิ ระบบขับถ่ายเปลี่ยนแปลง เป็นแผลเรื้อรังหายยาก ร่างกายมีก้อนตุ่ม กลืนกินอาหารลำบาก ช่องทวารทั้งหลายมีเลือดไหล ลักษณะของไฝหูดเปลี่ยนไป มีอาการไอและเสียงแหบเรื้อรัง

ได้ยินอย่างนี้แล้ว เชื่อว่าหลายคนคงเป็นกังวลอย่างแน่นอน ว่าถ้าเกิดโรคร้ายนี้มาเยือนคนใกล้ตัวจริงๆ นอกจากการรักษาตัวกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแล้ว เราจะมีวิธีใดอีกบ้างในการรับมือกับปัญหาสุขภาพที่ไม่คาดฝันนี้

วันนี้อลิอันซ์ อยุธยา มีคำแนะนำดีๆ ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจกับโรคนี้ให้มากขึ้น ด้วยวิธีปฏิบัติตัวเบื้องต้น หากมีคนใกล้ชิดป่วยเป็นมะเร็งในระยะเริ่มต้น เพื่อเพิ่มกำลังใจให้กับเราและผู้ป่วย
รู้ก่อนซื้อ อลิอันซ์ อยุธยา มีคำแนะนำดีๆ ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจกับโรคนี้ให้มากขึ้น
1.ยอมรับแล้วก้าวต่อไป

ทั้งตัวเราเองและผู้ป่วย ต้องมีกำลังใจ และต้องเข้าใจว่ามันคือเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ยิ่งเกิดความทุกข์ใจ กังวลใจ จะยิ่งทำให้ร่างกายเหนื่อยล้า และทำให้เจ็บป่วยง่ายกว่าเดิม โดยเฉพาะกับผู้ที่มาดูแลต้องมีกำลังใจดีกว่า สามารถให้พลังเชิงบวกกับผู้ป่วยได้ หากคนรอบข้างแสดงความทุกข์ ก็จะยิ่งทำให้คนป่วยทรุดไปด้วย

2. ออกกำลังกาย และทำกิจกรรมร่วมกันสม่ำเสมอ

นอกจากจะช่วยลดความเครียดให้กับทั้งผู้ป่วยและคนดูแลแล้ว ยังทำให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่โดดเดี่ยว และรู้สึกมีคุณค่ากับตัวเองมากยิ่งขึ้น แต่หากผู้ป่วยมีอาการอ่อนแรงไม่สามารถออกกำลังกายหนักๆ ได้ ควรหากิจกรรมเบาๆ ให้ทำเพื่อไม่ให้ผู้ป่วยนอนติดเตียงหรือนั่งติดเก้าอี้ อาจเป็นการทำงานศิลปะ การเล่นดนตรีง่ายๆ ที่สามารถทำร่วมกับผู้อื่นได้
 
3. หลีกเลี่ยงสิ่งบั่นทอนสุขภาพ
 
ทั้งคนดูแลและผู้ป่วยควรเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ เช่น งดหรือเลิกสูบบุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่แออัด เพื่อลดอาการแทรกซ้อนต่างๆ โดยเฉพาะผู้ดูแลควรเป็นคนริเร่มในการลดละเลิก เพื่อเสริมกำลังใจให้ผู้ป่วยได้ทำตาม
 
4. ปรับพฤติกรรมการกินใหม่
 
หากพบว่าผู้ป่วยรับประทานอาหารได้น้อย ผู้ดูแลสามารถเลือกที่จะลดปริมาณในแต่ละมื้อลง แต่เพิ่มจำนวนมื้อให้บ่อยขึ้น และต้องงดอาหารหวาน เพื่อป้องกันไม่ให้มะเร็งขยายตัว รวมทั้งงดอาหารรสจัดต่างๆ เพื่อไม่ให้เป็นภาระการทำงานของไต หรือถ้าให้ดี ควรมีการเปลี่ยนบรรยากาศการรับประทานอาหาร เช่น ออกไปที่ระเบียงบ้าน หรือกินข้าวในสวน เพื่อให้ผู้ป่วยรู้สึกสดชื่นขึ้น
 
5. ตั้งเป้าหมายในการมีชีวิต
 
การมีเป้าหมายร่วมกัน ทั้งผู้ป่วยและคนใกล้ชิด จะทำให้การมีชีวิตอยู่ต่อมีความหมายมากขึ้น ซึ่งนับเป็นการสร้างกำลังใจที่ดีอย่างหนึ่ง และทำให้ผู้ป่วยอยากจะฟื้นฟูตัวเองให้หายเป็นปกติ เพื่อคว้าเอารางวัลที่เรารอคอย

แม้มะเร็งจะเป็นโรคที่น่ากลัว และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของคนจำนวนมาก แต่หากสามารถตรวจพบได้เร็ว และมีความเข้าใจในการรักษาเยียวยา โอกาสที่จะหายจนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติก็เป็นไปได้เช่นกัน รวมทั้งการทำประกันมะเร็งเอาไว้ เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีในการรับมือกับโรคร้ายแรงนี้
 
หากคุณกำลังมองหาประกันมะเร็งให้กับตัวเองและคนที่คุณรัก วางใจให้อลิอันซ์ อยุธยา มอบความคุ้มครองและมั่นคงแน่นอน

คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ หรือโทรหาผู้เชี่ยวชาญของเราได้ที่ 022328555

ข้อมูลจาก
https://www.posttoday.com/life/healthy/597557
https://www.dms.go.th/Content/Select_Landding_page?contentId=30753
https://www.bangkokpattayahospital.com/th/healthcare-services/oncology-center-th/oncology-articles-th/item/567-living-with-cancer-patients-to-understand-th.html
https://www.pptvhd36.com/news/สุขภาพ/162267

Apologies, we are currently unable to handle your request. Please try again.

Enter the text from the box. 60 seconds remaining. Can't read the text? Reload text

Form sent successfully.