ประกันออมทรัพย์
ประกันออมทรัพย์ ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ จากอลิอันซ์ อยุธยา เป็นแผนประกันออมเงินที่ช่วยให้คุณและครอบครัววางแผนการออมเงินอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมรับความคุ้มครองชีวิตและสิทธิประโยชน์ทางภาษี ด้วยความยืดหยุ่นในการเลือกระยะเวลาการออมและการชำระเบี้ยประกันภัย คุณสามารถเลือกแผนที่เหมาะสมกับเป้าหมายทางการเงินของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการออมระยะสั้นหรือระยะยาว
อลิอันซ์ อยุธยา นำเสนอแผนประกันออมทรัพย์ ที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของคุณ เช่น แผนมาย ดับเบิล พลัส ที่เน้นการสร้างทุนสำรองสำหรับค่าใช้จ่ายในอนาคตหรือเป็นมรดกให้ลูกหลาน โดยมีระยะเวลาความคุ้มครองและการชำระเบี้ยประกันภัยที่หลากหลายให้เลือก นอกจากนี้ แผนสมาร์ท เซฟวิ่ง 18/8 (มีเงินปันผล) ยังมอบความคุ้มครอง 18 ปี พร้อมชำระเบี้ยประกันภัยเพียง 8 ปี และมีโอกาสรับเงินปันผลเพิ่มเติม ไม่ว่าคุณจะมองหาแผนการออมเพื่ออนาคตของตนเองหรือครอบครัว อลิอันซ์ อยุธยา พร้อมเป็นเพื่อนคู่คิดในการวางแผนการเงินที่มั่นคงและยั่งยืน
สนใจแบบประกัน
FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ ประกันออมทรัพย์
ประโยชน์ของประกันออมทรัพย์
ผู้ที่ต้องการวางแผนการเงิน
เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินในอนาคต ประกันออมทรัพย์ถือเป็นการวางแผนที่เหมาะสม เนื่องจากช่วยให้สามารถสร้างเงินออมและสะสมผลประโยชน์ได้ในทั้งในระยะสั้นและระยะยาว แล้วแต่แบบประกันที่เลือก ซึ่งผลประโยชน์เงินคืนที่ได้รับจากประกันออมทรัพย์ หรือ ประกันสะสมทรัพย์ นี้ไม่ต้องเสียภาษีอีกด้วย หากทำประกันออมทรัพย์ที่มีระยะเวลาเอาประกันภัยตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
ผู้ที่ต้องการลดหย่อนภาษี
เช่น พนักงานออฟฟิศมีรายได้ประจำ การลงทุนในประกันออมทรัพย์นับเป็นช่องทางที่ช่วยลดหย่อนภาษีได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเบี้ยประกันภัยส่วนหนึ่งสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในแต่ละปีได้ หากทำประกันออมทรัพย์ที่มีระยะเวลาเอาประกันภัยตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
ผู้ที่ต้องการสร้างความมั่นคงส่งต่อลูกหลาน
เช่น พ่อ-แม่ ที่ต้องการสร้างมรดกและทรัพย์สินให้แก่ลูกหลานในอนาคต สามารถระบุผู้รับผลประโยชน์ได้ และช่วยสร้างหลักประกันทางการเงินให้แก่ครอบครัว
ผู้ที่ต้องการความคุ้มครองชีวิต และการออมเงิน
เนื่องจากประกันออมทรัพย์นั้นให้ความคุ้มครองชีวิต และการสะสมเงินเพื่อรับผลประโยชน์จากการออมไว้ในกรมธรรม์เดียวกัน ทำให้ได้รับประโยชน์สองทางจากการออมเงินในครั้งเดียว
- เป้าหมายทางการเงิน และวัตถุประสงค์ในการออมเงิน เช่น ทุนการศึกษาบุตร การเกษียณอายุ หรือกรณีฉุกเฉิน
- ระยะเวลาในการออมเงิน เป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่จะกำหนดแผนการออมที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล หากต้องการเก็บเงินก้อนให้คงอยู่และได้รับเงินคืน ควรเลือกแผนประกันที่มีระยะเวลาการออมและลงทุนนานอย่างน้อย 10 ปีขึ้นไป เพื่อให้มีเวลาสะสมผลประโยชน์ได้มากพอ
- ความสามารถในการจ่ายค่าเบี้ยประกัน ต้องคำนึงถึงรายได้ประจำและภาระค่าใช้จ่าย เพื่อไม่ให้การจ่ายเบี้ยประกันเป็นภาระจนเกินไป ซึ่งเบี้ยประกันไม่ควรเกิน 10 - 20% ของรายได้ โดยค่าเบี้ยประกันจะแตกต่างกันไปตามแผนประกัน และระยะเวลาเอาประกันภัยที่เลือก
- ผลตอบแทน และสิทธิประโยชน์ที่ได้รับ ในรูปแบบของอัตราผลประโยชน์เงินคืน รวมถึงรูปแบบของระยะเวลาในการคืนเงิน ซึ่งจะแตกต่างกันออกไป เช่น แบบประกันที่คืนเงินทุก ๆ ปีตลอดระยะเวลาสัญญา หรือแบบประกันที่คืนเงินก้อนใหญ่เมื่อครบกำหนดสัญญา
- ความน่าเชื่อถือและมาตรฐานการดำเนินงานของบริษัทประกัน เพราะการสมัครทำประกันกับบริษัทที่มีความมั่นคงและมีประสบการณ์ ย่อมเป็นหลักประกันได้ว่าจะได้รับความคุ้มครองและผลตอบแทนตามที่ได้ทำสัญญาร่วมกันไว้