ประกันออมทรัพย์

Apologies, we are currently unable to handle your request. Please try again.

Enter the text from the box. 60 seconds remaining. Can't read the text? Reload text

Form sent successfully.

ประกันออมทรัพย์ หรือ ประกันสะสมทรัพย์ (Saving Insurance) คือ ประกันชีวิตประเภทหนึ่งที่มีจุดประสงค์เพื่อออมเงินตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ โดยผู้ถือกรมธรรม์จะได้รับผลประโยชน์เงินจ่ายคืนตามกรมธรรม์ระหว่างสัญญา และเมื่อครบกำหนดสัญญาจะได้รับเงินก้อน หากผู้เอาประกันภัยมีชีวิตอยู่ ณ วันที่ครบระยะเวลาความคุ้มครอง พร้อมกับความคุ้มครองชีวิตที่ช่วยดูแลความมั่นคงทางการเงินให้แก่ผู้รับผลประโยชน์ หากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตภายในระยะเวลาความคุ้มครอง

ประโยชน์ของประกันออมทรัพย์

  • วางแผนการเงินอย่างมีเป้าหมาย
  • สร้างนิสัยการออมเงินอย่างมีวินัย
  • ได้รับผลตอบแทนเมื่อครบกำหนด ตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
  • ได้รับความคุ้มครองชีวิตตลอดระยะเวลาเอาประกันภัย
  • หากทำประกันออมทรัพย์ที่มีระยะเวลาเอาประกันภัยตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้ตามกฎเกณฑ์ของกรมสรรพากร (หากกรมธรรม์สิ้นผลบังคับก่อนระยะเวลา 10 ปี หรือไม่ปฏิบัติตามกฏเกณฑ์ของกรมสรรพากรท่านอาจถูกเรียกคืนภาษี)

ผู้ที่ต้องการวางแผนการเงิน

เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินในอนาคต ประกันออมทรัพย์ถือเป็นการวางแผนที่เหมาะสม เนื่องจากช่วยให้สามารถสร้างเงินออมและสะสมผลประโยชน์ได้ในทั้งในระยะสั้นและระยะยาว แล้วแต่แบบประกันที่เลือก ซึ่งผลประโยชน์เงินคืนที่ได้รับจากประกันออมทรัพย์ หรือ ประกันสะสมทรัพย์ นี้ไม่ต้องเสียภาษีอีกด้วย หากทำประกันออมทรัพย์ที่มีระยะเวลาเอาประกันภัยตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป

ผู้ที่ต้องการลดหย่อนภาษี
เช่น พนักงานออฟฟิศมีรายได้ประจำ การลงทุนในประกันออมทรัพย์นับเป็นช่องทางที่ช่วยลดหย่อนภาษีได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเบี้ยประกันภัยส่วนหนึ่งสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในแต่ละปีได้ หากทำประกันออมทรัพย์ที่มีระยะเวลาเอาประกันภัยตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป

ผู้ที่ต้องการสร้างความมั่นคงส่งต่อลูกหลาน
เช่น พ่อ-แม่ ที่ต้องการสร้างมรดกและทรัพย์สินให้แก่ลูกหลานในอนาคต สามารถระบุผู้รับผลประโยชน์ได้ และช่วยสร้างหลักประกันทางการเงินให้แก่ครอบครัว

ผู้ที่ต้องการความคุ้มครองชีวิต และการออมเงิน
เนื่องจากประกันออมทรัพย์นั้นให้ความคุ้มครองชีวิต และการสะสมเงินเพื่อรับผลประโยชน์จากการออมไว้ในกรมธรรม์เดียวกัน ทำให้ได้รับประโยชน์สองทางจากการออมเงินในครั้งเดียว

  • เป้าหมายทางการเงิน และวัตถุประสงค์ในการออมเงิน เช่น ทุนการศึกษาบุตร การเกษียณอายุ หรือกรณีฉุกเฉิน
  • ระยะเวลาในการออมเงิน เป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่จะกำหนดแผนการออมที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล หากต้องการเก็บเงินก้อนให้คงอยู่และได้รับเงินคืน ควรเลือกแผนประกันที่มีระยะเวลาการออมและลงทุนนานอย่างน้อย 10 ปีขึ้นไป เพื่อให้มีเวลาสะสมผลประโยชน์ได้มากพอ
  • ความสามารถในการจ่ายค่าเบี้ยประกัน ต้องคำนึงถึงรายได้ประจำและภาระค่าใช้จ่าย เพื่อไม่ให้การจ่ายเบี้ยประกันเป็นภาระจนเกินไป ซึ่งเบี้ยประกันไม่ควรเกิน 10 - 20% ของรายได้ โดยค่าเบี้ยประกันจะแตกต่างกันไปตามแผนประกัน และระยะเวลาเอาประกันภัยที่เลือก
  • ผลตอบแทน และสิทธิประโยชน์ที่ได้รับ ในรูปแบบของอัตราผลประโยชน์เงินคืน รวมถึงรูปแบบของระยะเวลาในการคืนเงิน ซึ่งจะแตกต่างกันออกไป เช่น แบบประกันที่คืนเงินทุก ๆ ปีตลอดระยะเวลาสัญญา หรือแบบประกันที่คืนเงินก้อนใหญ่เมื่อครบกำหนดสัญญา
  • ความน่าเชื่อถือและมาตรฐานการดำเนินงานของบริษัทประกัน เพราะการสมัครทำประกันกับบริษัทที่มีความมั่นคงและมีประสบการณ์ ย่อมเป็นหลักประกันได้ว่าจะได้รับความคุ้มครองและผลตอบแทนตามที่ได้ทำสัญญาร่วมกันไว้
สำหรับการทำประกันออมทรัพย์ที่มีระยะเวลาเอาประกันภัยตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป เบี้ยประกันออมทรัพย์ สามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปี ตามกฎเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด หากยกเลิกหรือเวนคืนกรมธรรม์ก่อนครบกำหนด 10 ปี จะไม่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้และต้องจ่ายคืนภาษีย้อนหลัง รวมทั้งดอกเบี้ยของภาษีที่ต้องจ่ายนั้นด้วย (หากมีประกันชีวิตของคู่สมรสที่ไม่มีรายได้ สามารถนำมาลดหย่อนได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 10,000 บาท ต้องเป็นการรับประกันชีวิตโดยบริษัทประกันชีวิตในประเทศไทยเท่านั้น)
ประกันออมทรัพย์ เน้นการออมเงินและรับผลตอบแทนจากการออม ในขณะที่ประกันชีวิตทั่วไปมุ่งเน้นไปที่การให้ผลประโยชน์จากการมีชีวิตหรือเสียชีวิตเท่านั้น