โดยหลักการ ไม่มีอะไรซับซ้อน กล่าวคือเป็นการซื้อประกันชีวิตแบบบำนาญเอาไว้ เพื่อที่ว่าถึงวัยเกษียณเมื่อไหร่ ก็นำเงินบำนาญที่ได้ไปจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพ จะว่าไปก็คล้ายเป็นการหยอดกระปุกวันนี้ ไว้ใช้จ่ายในวันหน้า ซึ่งวิธีนี้คือตัวช่วยเพิ่มความมั่นใจยามเราเกษียณได้ เพราะการซื้อประกันชีวิตแบบบำนาญมีความเสี่ยงน้อยกว่าการลงทุนเพื่อเตรียมเกษียณแบบอื่นๆ และได้ผลตอบแทนที่แน่นอน ที่สำคัญยิ่งทำเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะจ่ายเบี้ยต่อปีไม่แพง แต่เนื่องจากผลตอบแทนของประกันชีวิตแบบบำนาญ คือ เงินบำนาญยามเกษียณ จึงไม่เหมาะกับคนที่มีความต้องการใช้เงินในระยะสั้น
ข้อดี
● มั่นใจว่าวัยนี้เราจ่ายไหว
● ได้ประโยชน์จากการลดหย่อนภาษี*
● ได้ความคุ้มครองแบบเบาใจ
● เลือกได้ว่าจะรับเงินบำนาญแบบไหน จะเป็นก้อนโต เป็นรายงวด หรือเลือกรับบางส่วนเป็นก้อน บางส่วนเป็นงวด ก็ยังได้ เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพไปยาวๆ แบบไม่เอาไปใช้หมดก่อน
*เงื่อนไขการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของประกันชีวิตแบบบำนาญ
● ใช้ลดหย่อนได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี และไม่เกิน 200,000 บาท/ปี
● อาจลดหย่อนได้สูงสุด 300,000 บาท/ปี ต่อเมื่อมีรายได้มากกว่า 1.33 ล้านบาท/ปี (หรือประมาณเดือนละแสนกว่าบาท) และไม่ได้ใช้สิทธิลดหย่อนจากประกันชีวิตทั่วไป
● เมื่อนำไปรวมกับเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท ด้วย